ประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว

บริษัท ไทยรูท ดอทคอม จำกัด เลขทะเบียนนิติบุคคล 0835549009954 สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่เลขที่ 1 อาคารทีพีแอนด์ที ชั้น15 ซอยวิภาวดีรังสิต19 แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900 รวมถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของบริษัท ไทยรูท ดอทคอม จำกัด ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกรวมว่า “บริษัท” มุ่งมั่นที่จะปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้บริการ คู่ค้า พันธมิตรทางธุรกิจ (เรียกรวมกันว่า “ท่าน” หรือ “เจ้าของข้อมูล”) ไม่ว่าจะเป็นการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผย (เรียกรวมกันว่า”การประมวลผลข้อมูล”) เพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 รวมไปถึงประกาศ และ/หรือ กฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง บริษัทฯ จึงออกประกาศฉบับนี้ขึ้น เพื่อแจ้งข้อมูลให้แก่ผู้ใช้บริการนั้นเกี่ยวกับ สิทธิและหน้าที่ ตลอดจนเงื่อนไขต่างๆในการเก็บ รวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ดังนี้

❍  ข้อมูลส่วนบุคคล

“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ

“ข้อมูลที่มีความอ่อนไหว” หมายถึง ข้อมูลอันรวมไปถึงแต่ไม่จำกัดเพียงแต่ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ข้อมูลความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ เช่น ข้อมูลจำลองใบหน้า ข้อมูลจำลองม่านตา หรือข้อมูลจำลองลายนิ้วมือ เป็นต้น

❍  ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม

ในการเก็บรวบรวมและเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทฯ จะใช้วิธีการที่ชอบด้วยกฎหมายและจำกัดเพียงเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์การดำเนินงานของบริษัทฯ มันประกอบด้วย

1.ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ-นามสกุล, อายุ, วันเดือนปีเกิด, เลขบัตรประชาชน, เลขที่หนังสือเดินทาง, ลายมือชื่อ, สำเนาบัตรประชาชน, สำเนาทะเบียนบ้าน, สถานภาพสมรส, ตำแหน่ง, อาชีพ, สังกัด, หมายเลขพาสปอร์ตดูหมายเลขบัตรที่ระบุตัวตนอื่น หรือเอกสารราชการอื่นๆ ที่สามารถระบุตัวตนได้ เป็นต้น

2.ข้อมูลสำหรับติดต่อ เช่น ที่อยู่, หมายเลขโทรศัพท์, อีเมล, นามบัตร, สถานที่ทำงาน เป็นต้น

3.ข้อมูลรูปภาพ เช่น ข้อมูลภาพนิ่ง, ภาพเคลื่อนไหวของตัวท่านหรือทรัพย์สินของท่านซึ่งได้รวบรวมจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด, กล้องถ่ายภาพเมื่อมีการเข้าในพื้นที่บริษัทฯ เป็นต้น

4.ข้อมูลบัญชีผู้ใช้งานบริการบนแพลตฟอร์ม เช่น ชื่อบัญชีผู้ใช้งาน, รหัสผ่าน เป็นต้น

5.ข้อมูลทางการเงิน เช่น ข้อมูลบัญชีธนาคาร, สำเนาสมุดบัญชี, เลขบัตรเครดิต, ข้อมูลวงเงินบัตรเครดิต, ข้อมูลการทำธุรกรรมรวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่ท่านซื้อ ราคา วิธีการชำระเงิน และรายละเอียดการชำระเงิน, รายได้ เป็นต้น

6.ข้อมูลเกี่ยวกับการซื้อสินค้าและบริการ เช่น ประวัติการสั่งซื้อ, ความสนใจในการซื้อและบริการผลิตภัณฑ์, หมายเลขการสั่งซื้อ, หมายเลขคำร้องขอ เป็นต้น

7.ข้อมูลการเดินทาง เช่น ข้อมูลรถ, ข้อมูลโรงแรม, ข้อมูลทัวร์ ที่ท่านใช้บริการ ข้อมูลสำหรับการบริการเฉพาะสำหรับท่านที่ต้องการเลขที่นั่ง, บันทึกข้อมูลผู้โดยสารในการเดินทาง, หมายเลขบัตรโดยสาร, หมายเลขใบกำกับภาษี เป็นต้น

8. ข้อมูลที่ได้จากระบบอัตโนมัติหรืออุปกรณ์ต่างๆ เช่น หมายเลข IP Address, Cookie, พฤติกรรมการใช้บริการ, ประวัติการใช้บริการ, เสียง, ภาพถ่าย, ภาพเคลื่อนไหว, บัญชี Social Media, Chat, Geolocation เป็นต้น

โดยบริษัทฯ จะดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อน ยกเว้นในกรณีดังต่อไปนี้

1.ปฏิบัติตามสัญญา กรณีการเก็บรวบรวมใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อความจำเป็นต่อการให้บริการหรือปฏิบัติตามสัญญาระหว่างเจ้าของข้อมูลและบริษัทฯ

2.เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพ

3.เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย

4.เพื่อผลประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ กรณีมีความจำเป็นเพื่อใช้ประโยชน์อันชอบธรรมในการดำเนินงานของบริษัทฯ โดยบริษัทฯ จะพิจารณาถึงสิทธิของเจ้าของข้อมูลเป็นสำคัญ เช่น เพื่อป้องกันการฉ้อโกง การรักษาความปลอดภัยในระบบเครือข่าย ป้องกันสิทธิเสรีภาพ และประโยชน์ของเจ้าของข้อมูลเป็นต้น

5.เพื่อการศึกษาวิจัยหรือสถิติ กรณีที่มีการจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์หรือจดหมายเหตุเพื่อประโยชน์สาธารณะที่เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยหรือสถิติซึ่งได้จัดให้มีมาตรการป้องกันที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสิทธิ และเสรีภาพของเจ้าของข้อมูล

6.เพื่อปฏิบัติภารกิจของรัฐ กรณีมีความจำเป็นต่อการปฏิบัติตามภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะดูการปฏิบัติหน้าที่ตามอำนาจรัฐที่ บริษัทฯ ได้รับมอบหมาย

❍  ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว

บริษัทฯ อาจจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลที่มีความอ่อนไหว เช่น ศาสนา เชื้อชาติ ข้อมูลชีวภาพ (การสแกนใบหน้า, การสแกนลายนิ้วมือ) ข้อมูลความพิการ ข้อมูลสุขภาพ ประวัติอาชญากรรม โดยบริษัทฯ จะทำการขอคำยินยอมจากท่านทุกครั้งในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว เว้นแต่

1.เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกายหรือสุขภาพของบุคคลซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่สามารถให้ความยินยอมได้

2.เป็นการดำเนินกิจกรรมโดยชอบด้วยกฎหมายที่มีการคุ้มครองที่เหมาะสมของมูลนิธิ สมาคม หรือองค์กร ที่ไม่แสวงหากำไรที่มีวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการเมือง ศาสนา ปรัชญา หรือสหภาพแรงงาน ให้แก่สมาชิกผู้เคยเป็นสมาชิก หรือผู้ซึ่งมีการติดต่ออย่างสม่ำเสมอกับมูลนิธิ สมาคม หรือองค์กร ที่ไม่แสวงหากำไรตามวัตถุประสงค์ดังกล่าวโดยไม่ได้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้นออกไปภายนอกมูลนิธิ สมาคม หรือองค์กรที่ไม่แสวงหากำไรนั้น

3.เป็นข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะด้วยความยินยอมโดยชัดแจ้งของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

4.เป็นการจำเป็นเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติหรือการใช้สิทธิ์เรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย

5.เป็นการจำเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับ

5.1เวชศาสตร์ป้องกันหรืออาชีวเวชศาสตร์ การประเมินความสามารถในการทำงานของลูกจ้าง การวินิจฉัยโรคทางการแพทย์ การให้บริการด้านสุขภาพหรือด้านสังคม การรักษาทางการแพทย์ การจัดการด้านสุขภาพ ในกระบวนการให้บริการด้านสังคมสงเคราะห์

5.2ประโยชน์ด้านสาธารณสุข เช่น การป้องกันด้านสุขภาพจากโรคติดต่ออันตรายหรือโรคระบาด

5.3การคุ้มครองแรงงาน การประกันสังคม หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลของผู้มีสิทธิตามกฎหมาย การคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ดูการคุ้มครองทางสังคม

5.4การศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ สถิติ หรือประโยชน์สาธารณะอื่น

5.5ประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ

❍  แหล่งที่มาข้อมูล

1.ข้อมูลจากเจ้าของข้อมูลโดยตรง ที่ท่านได้ให้ไว้ในกิจกรรมต่างๆ เช่น ช่องทางเว็บไซต์ แอพพลิเคชั่น หรือช่องทางอื่นของบริษัทฯ, การเข้า-ออก ภายในบริษัทฯ, การซื้อสินค้าหรือใช้บริการจากทางบริษัท, การจัดอบรม, การจัดซื้อจัดจ้าง, การทำธุรกรรมแบบออนไลน์และออฟไลน์ การตอบโต้ทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์(e-mail) การกรอก/ให้ข้อมูลประกอบการสมัครงาน หรือช่องทางการสื่อสารอื่นๆ ระหว่างบริษัทฯ และท่าน

2.ข้อมูลจากบุคคลที่สามที่มีความเกี่ยวข้อง เช่น ญาติ, คนในครอบครัว

3.ข้อมูลจากระบบอัตโนมัติ เช่น ภาพจากกล้องวงจรปิด

4.ข้อมูลจากแหล่งอื่น เช่น ข้อมูลสาธารณะ ข้อมูลจากหน่วยงานพันธมิตร หน่วยราชการ หรือ บริษัทในเครือ ตลอดจนข้อมูลส่วนบุคคลอื่นๆ ที่ผู้ใช้บริการได้มอบไว้ให้

❍  วัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ อาจนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้ตามวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้หรือตามวัตถุประสงค์อื่นๆ ที่แจ้งขณะเก็บรวบรวมข้อมูลหรือที่ท่านได้ให้ความยินยอมหลังจากบริษัทฯ ดำเนินการเก็บข้อมูลไปแล้ว

1.เพื่อเข้าทำสัญญา หรือปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาระหว่างบริษัทฯ กับเจ้าของข้อมูล หรือปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาระหว่างบริษัทฯ กับบุคคลภายนอกเพื่อประโยชน์ของเจ้าของข้อมูล

2.ใช้ข้อมูลในการยืนยันตัวตนลูกค้า

3.เพื่อให้ข้อมูลและแนะนำสินค้า ผลิตภัณฑ์ การบริการ ประชาสัมพันธ์ทางการตลาดรายการส่งเสริมการขาย หรือสิทธิประโยชน์ผ่านช่องทางการติดต่อที่ได้รับจากเจ้าของข้อมูล

4.เพื่อจัดส่งสินค้าและให้บริการเพื่อตอบสนองความต้องการหรือข้อร้องเรียนต่างๆ

5.ใช้ในการดำเนินกิจการ ประเมินผล และปรับปรุงธุรกิจ เพื่อพัฒนาคุณภาพสินค้าและบริการ

6.ดำเนินกิจกรรมใดๆ ทางบัญชีและการเงิน เช่น การตรวจสอบบัญชี การแจ้งและเรียกเก็บหนี้ การออกใบกำกับภาษี และหลักฐานการดำเนินธุรกรรมต่างๆ ที่กฎหมายกำหนด

7.เพื่อประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ เช่น การบันทึกเสียงการร้องเรียนผ่านระบบ Call Center การบันทึกภาพผ่านกล้อง CCTV การบันทึก เข้า-ออก ภายในบริษัทฯ

8.การปฏิบัติตามกฎของบริษัทฯ

9.การสมัครงาน การเป็นพนักงาน และ/หรือวัตถุประสงค์อื่นใดที่เกี่ยวข้อง

10.ใช้ในการสอบสวนและปฏิบัติตามกฎหมาย ก็บังคับ หรือหน้าที่ตามกฎหมายของบริษัทฯ

11.ตอบสนองต่อคำขอของท่าน เช่น การให้บริการหลังการขาย การรับเรื่องร้องเรียน

12.อำนวยความสะดวกและนำเสนอรายการสิทธิประโยชน์ต่างๆ แก่ผู้ใช้บริการ

13.จุดประสงค์ด้านการตลาด การส่งเสริมการขาย และการลูกค้าสัมพันธ์ เช่น การส่งข้อมูลเกี่ยวกับโปรโมชั่น ผลิตภัณฑ์และบริการ รายการส่งเสริมการขาย แนะนำธุรกิจพันธมิตร

14.สำรวจความพึงพอใจของผู้ใช้บริการ วิจัยตลาด และวิเคราะห์ทางสถิติ เพื่อเป็นข้อมูลในการปรับปรุงผลิตภัณฑ์และบริการ หรือสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ

15.วัตถุประสงค์อื่นๆ ที่ได้รับคำยินยอมชัดแจ้งจากท่าน

❍  การส่งต่อและเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ จะไม่เปิดเผยได้ส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังหน่วยงานภายนอก เว้นแต่ได้รับคำยินยอมจากแจ้งจากท่าน หรือเป็นไปตามกรณีดังต่อไปนี้

1.เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ตามที่ระบุในนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ บริษัทฯ อาจจำเป็นต้องเปิดเผยหรือแบ่งปันข้อมูลเฉพาะเท่าที่จำเป็นแก่คู่ค้า ผู้ให้บริการ หรือหน่วยงานภายนอก ดังต่อไปนี้

1.1ธุรกิจคู่ค้า และธุรกิจพันธมิตร

1.2ตัวแทน หรือคู่ค้าที่ให้บริการแก่บริษัทฯ หรือดำเนินการใดๆ ในฐานะตัวแทนของบริษัทฯ เช่น ผู้ให้บริการขนส่ง, ผู้ให้บริการเก็บและทำลายเอกสาร ผู้รับจ้างทำกิจกรรมทางการตลาดและสื่อโฆษณา ผู้รับจ้างพัฒนาและดูแลระบบความปลอดภัยและเทคโนโลยีสารสนเทศ ผู้ตรวจสอบบัญชี ทนายความ ที่ปรึกษากฎหมายหรือภาษี เป็นต้น

1.3หุ้นส่วนทางธุรกิจ

1.4ธนาคาร และผู้ให้บริการชำระเงิน เช่น บริษัทบัตรเครดิต หรือเดบิต เป็นต้น

2.บริษัทฯ อาจเปิดเผยหรือแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บริษัทในเครือ โดยจะเป็นการประมวลผลข้อมูลภายใต้วัตถุประสงค์ที่ระบุในนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้เท่านั้น

3.กฎหมายหรือกระบวนการทางกฎหมายบังคับให้เปิดเผยข้อมูล หรือเปิดเผยต่อเจ้าพนักงาน เจ้าหน้าที่รัฐ หรือหน่วยงานที่มีอำนาจพื่อปฏิบัติตามคำสั่งหรือคำขอที่ชอบด้วยกฎหมาย

❍  การถ่ายโอนหรือส่งต่อข้อมูลไปยังต่างประเทศ

ในบางกรณีบริษัทฯ อาจส่งข้อมูลของผู้รับบริการไปยังต่างประเทศ เช่น ในกรณีที่ บริษัทฯ ติดต่อกับผู้รับบริการที่อยู่ต่างประเทศ หรือหน่วยงานภายนอกที่อยู่ต่างประเทศ กรณีเช่นนี้ บริษัทฯ จะส่งข้อมูลของผู้รับบริการไปยังต่างประเทศก็ต่อเมื่อเป็นไปตามเงื่อนไขอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้้

1.ประเทศปลายทางหรือองค์กรระหว่างประเทศที่รับข้อมูลได้รับการวินิจฉัยจากคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลว่ามีการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ

2.หน่วยงานต่างประเทศที่รับข้อมูลอยู่ภายใต้นโยบายในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับการตรวจสอบและรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

3.บริษัทฯ และหน่วยงานต่างประเทศได้จัดให้มีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสมสามารถบังคับตามสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ รวมทั้งมีมาตรการเยียวยาทางกฎหมายที่มีประสิทธิภาพตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด เช่น ข้อสัญญามาตรฐาน ประมวลวิธีปฏิบัติ มาตรฐานที่ได้รับการรับรอง เป็นต้น

4.เป็นสิ่งที่จำเป็นต่อการใช้สิทธิตามกฎหมาย

5.ได้รับความยินยอมจากท่าน โดยท่านได้รับทราบถึงมาตรฐานการคุ้มครองส่วนบุคคลที่ไม่เพียงพอของประเทศปลายทางหรือองค์การระหว่างประเทศที่รับข้อมูลส่วนบุคคลแล้ว

6.เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญาหรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญานั้น

7.เป็นการกระทำตามสัญญาระหว่าง บริษัทฯ กับบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นเพื่อประโยชน์ของท่าน

8.เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่าน หรือบุคคลอื่น เมื่อท่านไม่สามารถให้ความยินยอมในขณะนั้นได้

9.เป็นการจำเป็นเพื่อการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ

❍  การปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ ได้จัดทำและ/หรือเลือกใช้ระบบการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลให้มีกลไกและเทคนิคที่เหมาะสมพร้อมทั้งมีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งจำกัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากพนักงาน ลูกจ้าง และตัวแทนของบริษัทฯ เพื่อป้องกันไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกนำไปใช้ เปิดเผย ทำลาย หรือเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต

❍  ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล

บริษัทฯ การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตลอดระยะเวลาตราบเท่าที่จำเป็นต่อการประมวลผลตามวัตถุประสงค์ในนโยบายฉบับนี้เท่านั้น เว้นแต่มีความจำเป็นต้องเก็บข้อมูลส่วนบุคคลไว้ด้วยเหตุอื่นใด เช่น เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายหรือการตรวจสอบกรณีการเกิดข้อพิพาท บริษัทฯ อาจมีความจำเป็นต้องเก็บข้อมูลไว้เป็นระยะเวลาเกินกว่าที่ระบุ

❍  การเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัว

บริษัทฯ อาจแก้ไขเพิ่มเติมนโยบายความเป็นส่วนตัวโดยจะประกาศบนเว็บไซต์ พร้อมระบุวันที่แก้ไขเพิ่มเติมครั้งล่าสุด บริษัทฯ แนะนำให้ท่านตรวจสอบนโยบายนี้เป็นประจำ โดยการที่ท่านใช้ผลิตภัณฑ์หรือบริการทางเว็บไซต์ของบริษัทฯ ต่อไปหลังจากที่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวจะถือว่าท่านยอมรับนโยบายที่เปลี่ยนแปลงนั้นแล้ว

❍  สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านสามารถขอใช้สิทธิ์ต่างๆ ตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด และตามที่ระบุไว้ในประกาศฉบับนี้ได้ดังต่อไปนี้

1.สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ เว้นแต่ มีข้อจำกัดสิทธิโดยกฎหมายหรือสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่าน ทั้งนี้ การถอนความยินยอมจะไม่ส่งผลกระทบต่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมแก่บริษัทฯ ก่อนหน้าแล้วโดยชอบด้วยกฎหมาย

2.สิทธิในการขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล เว้นแต่ กรณีที่บริษัทฯ มีสิทธิปฏิเสธคำขอของท่านตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล เดี๋ยวกรณีที่คำขอของท่านจะมีผลกระทบที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น

3.สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลบุคคลให้เป็นปัจจุบัน ถูกต้อง สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด ทั้งนี้ การแก้ไขดังกล่าว บริษัทฯ สามารถดำเนินการได้แม้ท่านจะไม่ร้องขอ

4.สิทธิในการขอลบหรือทำลายหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ในกรณีดังต่อไปนี้

4.1เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลบทความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ในการเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

4.2เมื่อท่านถอนความยินยอมในการเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลและบริษัทฯ ไม่มีอำนาจตามกฎหมายที่จะเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลต่อไป

4.3เมื่อท่านคัดค้านการเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล และบริษัทฯ ไม่มีอำนาจตามกฎหมายที่จะปฏิเสธได้ เว้นแต่กรณีที่บริษัทฯ มีเหตุโดยชอบด้วยกฎหมายในการปฏิเสธคำขอของท่าน

5.สิทธิในการขอรับหรือขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ในกรณีที่บริษัทฯ ได้ทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ เว้นแต่ โดยสภาพทางเทคนิคไม่สามารถทำได้ หรือเป็นการปฏิบัติหน้าที่เพื่อประโยชน์สาธารณะหรือเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย หรือการใช้สิทธิละเมิดต่อสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น

6.สิทธิในการขอคัดค้าน ท่านมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อใดก็ได้ ในกรณีดังต่อไปนี้

6.1กรณีที่เป็นข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งบริษัทฯ ดำเนินการภายใต้ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย เว้นแต่บริษัทฯ ได้แสดงให้เห็นถึงเหตุอันชอบด้วยกฎหมายที่สำคัญยิ่งกว่า หรือเพื่อก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย

6.2เพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาดแบบตรง

6.3เพื่อการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติ เว้นแต่บริษัทฯ มีความจำเป็นเพื่อดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของบริษัท

7.ท่านมีสิทธิในการขอระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีดังต่อไปนี้

7.1เมื่อบริษัทฯ อยู่ในระหว่างการตรวจสอบตามที่ท่านได้ขอให้แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลถูกต้องเป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

7.2เมื่อเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ต้องลบหรือทำลาย

7.3เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวหมดความจำเป็น เนื่องจากท่านมีความจำเป็นที่ต้องขอให้เก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เพื่อใช้ในการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย

7.4เมื่อบริษัทฯ อยู่ในระหว่างการพิสูจน์สิทธิในการปฏิเสธคำขอการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

8.ท่านมีสิทธิในการร้องเรียนต่อคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หากบริษัทฯ ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562

หากท่านมีข้อสงสัยหรือมีความประสงค์จะแก้ไข ลบข้อมูล ใช้สิทธิอื่นใดตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือติดต่อเรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวกับข้อมูลของท่าน กรุณาติดต่อผ่านช่องทางการติดต่อด้านล่าง

❍  ช่องทางการติดต่อ

บริษัท ไทยรูท ดอทคอม จำกัด

1 อาคารทีพีแอนด์ที ชั้น15 ซอยวิภาวดีรังสิต19 แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900

โทร: 02-269-6999

อีเมล์: info@thairoute.com

โดยแจ้งข้อมูลดังต่อไปนี้ประกอบการใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

 ชื่อ นามสกุล เลขที่บัตรประจำตัวประชาชน /เลขที่หนังสือเดินทาง

 ข้อสงสัยเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล หรือสิทธิที่ต้องการใช้ตามกฎหมาย

 หมายเลขโทรศัพท์ ที่อยู่ และอีเมล์ที่สามารถติดต่อกลับได้